ทำความรู้จัก คัฟลิงค์ เครื่องประดับสุดเท่ เสริมเสน่ห์สำหรับคุณผู้ชาย



ทำความรู้จัก คัฟลิงค์ เครื่องประดับสุดเท่ เสริมเสน่ห์สำหรับคุณผู้ชาย

ไอเทมที่หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูอย่าง คัฟลิงค์ เครื่องประดับจิ๋วชิ้นสำคัญสำหรับหนุ่มๆ ที่ควรมีติดตัวไว้เพราะไอเทมสุดคลาสซีนี้ สามารถช่วยเสริมความหล่อ เท่ และเพิ่มเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ได้ บทความนี้จะพาไปรู้จักกับคัฟลิงค์ว่าคืออะไร ประเภทของคัฟลิงค์ วิธีการสวมใส่คัฟลิงค์ให้ดูดี และควรใส่ตอนไหน ไปหาคำตอบกันได้เลย

 

ทำความรู้จักกับ คัฟลิงค์

 

ทำความรู้จักกับ คัฟลิงค์

คัฟลิงค์ (Cufflinks) คือ กระดุมติดข้อมือ เครื่องประดับชิ้นเล็กที่เหมาะกับการมีไว้ในครอบครอง มักใช้โลหะ หรืออัญมณีในการสร้างออกแบบให้มีลวดลาย และรูปทรงต่างๆ เช่น ทรงกลม ทรงแบน ทรงเหลี่ยม ซึ่งการใช้งานคัฟลิงค์จะเหมือนกระดุมทั่วไปที่ติดปลายแขนเสื้อเชิ้ตตรงข้อมือ แต่เป็นกระดุมที่มีก้านยาวออกมา เหมาะกับผู้ที่ใส่เชิ้ตที่มีปลายแขนเสื้อแบบพิเศษอย่างปลายแขนเชิ้ตแบบประกบหนึ่งทบ และแบบประกบสองทบ ซึ่งจะเจาะรูกลมไว้ใส่คู่กับคัฟลิงค์ ไอเทมชิ้นนี้จึงถือเป็นเครื่องประดับสุดคลาสสิกที่จะช่วยให้ลุคของคุณผู้ชายดูหล่อ สมาร์ต หรูหรา และดูเป็นทางการมากขึ้น

 

จุดประสงค์ของคัฟลิงค์ คืออะไร?

 

จุดประสงค์ของคัฟลิงค์ คืออะไร?

จุดประสงค์ของคัฟลิงค์ คือ การกลัดปลายแขนเสื้อให้เข้ารูปกระชับกับข้อมือของผู้สวมใส่ หรือที่รู้จักกันว่าเป็น “กระดุมสำหรับกลัดปลายแขนเสื้อ” โดยเฉพาะเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่มีการตัดเย็บแบบปลายแขนเสื้อเชิ้ตประกบกันหนึ่งทบ (French Cuff) และ ปลายแขนเสื้อเชิ้ตประกบกันสองทบ (Double Cuff) ซึ่งสไตล์การตัดเย็บเสื้อเชิ้ตรูปแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อไอเทมอย่างคัฟลิงค์โดยเฉพาะ ดังนั้น คัฟลิงค์จึงทำหน้าที่เป็นเสมือนกระดุมที่ช่วยให้ปลายเสื้อเชิ้ตบริเวณข้อมือมีความกระชับ วิธีการง่ายๆ คือ การนำปลายแขนเสื้อเชิ้ตมาพับเป็นทบเข้าหากันให้พอดีกับข้อมือ จากนั้นนำคัฟลิงค์มากลัดให้กระชับ นอกจากนี้ คัฟลิงค์ยังทำหน้าที่นำเสนอตัวตนของผู้สวมใส่ให้มีสไตล์ที่แตกต่าง ดูดี มีระดับ สะท้อนรสนิยม และปรับแต่งบุคลิกภาพให้โดดเด่นชวนมองมากยิ่งขึ้น

 

คัฟลิงค์มีกี่ประเภท?

คัฟลิงค์ หรือกระดุมติดข้อมือมีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภท หลายสไตล์ และหลายวัสดุ รวมถึงโอกาสในการสวมใส่ก็แตกต่างกันไป จึงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม โดยคัฟลิงค์ที่เป็นที่นิยมมีอยู่ 8 แบบ ดังนี้

 

คัฟลิงค์มีกี่ประเภท?

 

1. Bullet Back & Toggle

คัฟลิงค์แบบ Bullet Back & Toggle เป็นกระดุมติดข้อมือที่ออกแบบเป็นรูปทรงกลม หรือทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปลายแป้นล็อกแบบแคปซูลสามารถหมุนได้ 90 องศา สามารถใส่คัฟลิงค์เข้ารังดุมได้ง่ายๆ โดยสอดเข้าแนวตั้ง และล็อกในแนวนอน ถือเป็นรูปแบบคัฟลิงค์ยอดนิยม เพราะเหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว สามารถใส่ออกงานแบบสุภาพได้ หรือใส่ทำงาน ใส่ประชุมก็ได้เช่นกัน

 

2. Whale Back

คัฟลิงค์แบบ Whale Back เป็นกระดุมติดข้อมือที่เน้นตกแต่งด้วยอัญมณีที่มีความหรูหรา เช่น เพชร พลอย เป็นหลัก ออกแบบด้วยโลหะสีเงิน และทองทำให้คัฟลิงค์ประเภทนี้มีความหนักกว่าประเภทอื่น ๆ แป้นล็อกเป็นรูปทรงหางปลาวาฬ (Whale Back) ทำให้ต้องพลิกสลับเพื่อล็อก ด้วยเหตุนี้คัฟลิงค์แบบ Whale Back จึงเหมาะกับการใส่ออกงานกลางคืน ผู้ที่ต้องออกงานเนื่องในโอกาสพิเศษ ด้วยดีไซน์ของตัวคัฟลิงค์ที่มีความหรูหรา ดูแพง และเน้นความเป็นทางการโดยเฉพาะ

 

Stud/ Button

 

3. Stud/ Button

คัฟลิงค์แบบ Stud/ Button เป็นกระดุมติดข้อมือที่มีรูปทรงกลม ลักษณะของตัวคัฟลิงค์ฝั่งหนึ่งมีขนาดใหญ่ และอีกฝั่งมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และมีขนาดเล็กสุดในบรรดาคัฟลิงค์ประเภทต่างๆ เวลาใส่จะนำส่วนหลังที่เล็กกว่าเอียงสอดผ่านรังดุมยืดออกเพื่อล็อกให้เข้าที่ ช่วยให้ไม่หลุดง่าย อยู่ได้ตลอดทั้งวัน เหมาะกับการแต่งกายแบบลำลองทั่วไป ใส่ชุดสบายๆ ไม่เน้นความเป็นทางการมาก

 

4. Chain Link

คัฟลิงค์แบบ Chain Link เป็นกระดุมติดข้อมือที่มีตัวเชื่อมกันด้วยโซ่ (Chain) ตัวคัฟลิงค์มีทั้งทรงกลม ทรงแบน ทรงสี่เหลี่ยม และทรงรี โดยขนาด และรูปทรงจะเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน ต้องใช้ความชำนาญในการใส่เพราะต้องสอดทีละด้านผ่านรังดุม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแต่งกายด้วยสไตล์แนววินเทจให้โดดเด่นเหนือใคร

 

Chain Link

 

5. Ball Return

คัฟลิงค์แบบ Ball Return เป็นกระดุมติดข้อมือที่ใช้การล็อกแบบสอดปลายด้านที่เล็กกว่าเข้าที่รูของรังดุมปลายแขนเสื้อเชิ้ต ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าคัฟลิงค์จะหลุดหายในระหว่างวัน ด้วยสไตล์การใส่คัฟลิงค์ที่ล็อกแบบแน่นหนา ดีไซน์เรียบหรู ให้ความรู้สึกสุภาพ เรียบร้อย และดูเป็นทางการขึ้นมาอีกระดับ จึงเหมาะสำหรับใส่ไปทำงาน เข้าประชุมใหญ่ หรือออกงานสังคม

 

6. Locking 

คัฟลิงค์แบบ Locking เป็นกระดุมติดข้อมือที่มีลักษณะการใส่คล้ายกับการปิดสายนาฬิกาโลหะ วิธีการใส่คือนำปลายคัฟลิงค์ที่เล็กกว่าอีกด้านเข้ารังดุม เปิดคัฟลิงค์แล้วพับหนีบเข้าข้าง ๆ ของรังดุม เพื่อล็อกให้เข้าที่ไม่หลุดระหว่างวัน ถือเป็นคัฟลิงค์ที่ใช้งานง่ายอีกประเภทหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่แต่งกายแบบแฟชั่น เพราะตัวคัฟลิงค์โชว์ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และการล็อกแบบพับได้ที่ทำให้การใช้งานมีความง่ายมากขึ้น

 

Silk Knot

 

Silk Knot

คัฟลิงค์แบบ Silk Knot เป็นกระดุมติดข้อมือที่ตกแต่งด้วยผ้าไหม หรือเส้นด้าย มาในสไตล์แบบเรียบง่าย ดูสบายๆ ไม่เน้นความเป็นทางการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแต่งกายแบบลำลองทั่วไป หรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นลองสวมใส่คัฟลิงค์

 

Fabric

คัฟลิงค์แบบ Fabric เป็นกระดุมติดข้อมือที่ตัวกระดุมใช้เนื้อผ้าทั่วไปในการออกแบบ แป้นเป็นโลหะ ทรงการล็อกแบบแคปซูลทำให้การใส่เป็นเรื่องง่าย ซึ่งคัฟลิงค์ประเภทนี้ไม่เน้นความเป็นทางการ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งกายแบบแฟชั่นที่เน้นลวดลาย   

 

วิธีการสวมใส่คัฟลิงค์ให้ดูดี

 

วิธีการสวมใส่คัฟลิงค์ให้ดูดี

คัฟลิงค์มีหลากหลายประเภท ทำให้อาจมีการสวมใส่ที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วมีวิธีการ ดังนี้

  1. เลือกสวมเสื้อที่ถูกต้อง คัฟลิงค์มักใส่กับเสื้อเชิ้ตแบบ French Cuff หรือ Double Cuff โดยเสื้อเชิ้ตประเภทนี้ ปลายแขนเสื้อจะยาวเป็นพิเศษ เพื่อพับทบกลับไปเป็นการสร้างเลเยอร์ โดยจะมีรูเล็ก ๆ ที่ปลายเชิ้ตบริเวณข้อมือแต่ละด้าน
  2. พับปลายแขนเสื้อกลับโดยใช้มืออีกข้าง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าขอบปลายของเสื้อเชิ้ตอยู่ใกล้กับนิ้วมากที่สุด
  3. จับปลายแขนเสื้อเชิ้ตไว้ด้วยกัน หนีบขอบเสื้อทั้งสองข้างเข้าหากัน โดยให้ขอบเสื้อทั้งสองแบนราบ และกระชับข้อมือ 
  4. จัดตำแหน่งรังดุมปลายแขนเสื้อ จัดตำแหน่งรังดุมบริเวณข้อมือให้เท่ากัน และอยู่ในแนวเดียวกัน 
  5. ใส่คัฟลิงค์และทำการล็อกตำแหน่งให้เรียบร้อย เมื่อแขนอยู่ข้างลำตัว คัฟลิงค์ที่ตกแต่งลวดลาย หรืออัญมณีควรแสดงสู่ภายนอก

 

ข้อดีของการสวมใส่คัฟลิงค์

 

ข้อดีของการสวมใส่คัฟลิงค์

การสวมใส่คัฟลิงค์มีข้อดีมากมาย ดังนี้

 

ควรใส่คัฟลิงค์ตอนไหนดี?

 

ควรใส่คัฟลิงค์ตอนไหนดี?

การสวมใส่คัฟลิงค์ สามารถสวมใส่ได้ในหลายโอกาส และเปลี่ยนได้ตามสไตล์ที่ต้องการ เรียกได้ว่าการมีไอเทมชิ้นเล็กอย่างคัฟลิงค์ติดตู้เสื้อผ้าไว้ไม่เสียหายอย่างแน่นอน โดยการเลือกใช้คัฟลิงค์ดีไซน์ไหนให้เหมาะสม และเหมาะกับโอกาสสามารถทำได้ ดังนี้

 

ใส่สำหรับสัมภาษณ์งาน

การไปสัมภาษณ์งานปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพลักษณ์เมื่อแรกพบย่อมเป็นที่คนจดจำ และเป็นคะแนนส่วนหนึ่งในการพิจารณา โดยสามารถใช้คัฟลิงค์กับการแต่งกายที่เรียบง่ายอย่างเสื้อเชิ้ตเรียบๆ สักตัว เน้นแต่งกายแนวคลาสสิก และไม่ดึงความสนใจมากจนเกินไป 

โดยดีไซน์ของคัฟลิงค์ที่เหมาะสมควรเป็นคัฟลิงค์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบเรียบๆ เน้นสีเงินเป็นหลัก ก้านแข็งมาตรฐาน เพราะจะช่วยให้ลุคที่ดูสุขุม น่าเชื่อถือ และมีความเรียบหรู

 

ใส่สำหรับทำงาน

สำหรับผู้ที่ต้องการใส่คัฟลิงค์สำหรับไปทำงาน ไปประชุม ปรับลุคให้ดูมีความเป็นทางการขึ้นมาอีกระดับต้องเลือกคัฟลิงค์แบบเรียบหรู มีคุณภาพ โดยใส่คู่กับชุดสูท หรือเสื้อคลุมเบลเซอร์ก็ได้ เป็นการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น มีความเรียบหรู และดูดีในทุกมิติ

ดีไซน์ของคัฟลิงค์ที่เหมาะสมจะเป็นคัฟลิงค์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือทรงกลม เน้นสีเงินเป็นหลัก หากเป็นคัฟลิงค์ทรงกลมจะยิ่งเพิ่มความเป็นแฟชั่น แต่ยังคงความสุภาพ สามารถใส่ได้ทุกโอกาสไม่ว่าจะเป็นการประชุมงาน ออกไปเจอลูกค้า หรือใส่ไปทำงานที่ค่อนข้างทางการก็ได้เช่นกัน

 

ใส่สำหรับโอกาสพิเศษ

โอกาสพิเศษอย่างงานกลางคืนที่ต้องดูดี มีภูมิฐาน โชว์สถานะทางสังคม และมีระดับความเป็นทางการมากที่สุด ควรเลือกใส่คู่กับสูทแบบทางการโดยเฉพาะ 

ดีไซน์ของคัฟลิงค์ที่เหมาะสมจะเป็นคัฟลิงค์ทรงกลม มีความหรูหรา ราคาสูง โดยตกแต่งด้วยอัญมณีเพิ่มเติมอย่างเพชร หรือพลอยที่มีการออกแบบที่ละเอียดปราณีต โดยแป้นล็อกของคัฟลิงค์จะมีความหนาเล็กน้อย เพื่อให้รองรับน้ำหนักได้ ทำให้ตัวคัฟลิงค์ค่อนข้างมีน้ำหนัก และหากงานมีความเป็นทางการมาก ควรเน้นใส่คัฟลิงค์ที่แต่งด้วยโลหะสีเงิน หรือทองเท่านั้น

 

สรุป

คัฟลิงค์ คือ เครื่องประดับที่ช่วยเสริมเสน่ห์สำหรับผู้ชายให้เรียบหรู ดูดี มีรสนิยม ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้โดดเด่นสะท้อนความเป็นตัวตนออกมา ปรับบุคลิกภาพให้สง่างาม และเพิ่มความมั่นใจ คัฟลิงค์ไอเทมชิ้นเล็กมีด้วยกันอยู่หลายประเภทให้ได้เลือกใช้ ควรมีติดไว้เพราะสามารถนำมาใช้ในทุกโอกาสสำคัญไม่ว่าจะเป็นการไปทำงาน สัมภาษณ์งาน หรือโอกาสพิเศษที่ต้องเพิ่มความเป็นทางการ หรือเพิ่มความหรูหรา ช่วยให้ผู้สวมใส่ดูดีมีคลาสมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

 

Back